การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย ที่กระทรวง พม. หลงทิศ
คมสันติ์
จันทร์อ่อน กองเลขาเครือข่ายสลัม ๔ ภาค
จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
หนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทั่งมีสื่อนำไปโพสคำพูดระหว่างอภิปรายของ นายจุติ ไกรฤกษ์ ว่า “งบประมาณมีจำกัด
เราอยากจะได้สวัสดิการถ้วนหน้า เรามีปัญหาข้อจำกัดเรื่องหนี้สาธารณะ
ดังนั้นการเคหะฯ จะนั่งรองบประมาณจากรัฐบาลเพื่อสร้างบ้านคนจนไม่ได้อีกต่อไป
และได้เปลี่ยนมาทำบ้านให้คนจนเช่า ซึ่งทำแล้ว ๑๐,๐๐๐ ห้อง ราคา ๙๙๙ บาท ทั่วประเทศ
พร้อมยืนยันว่า ตนอยากให้คนจนมีบ้านอยู่ ประชาชนต้องได้ประโยชน์มากขึ้น
เอกชนต้องเลิกหากินเป็นเหลือบกับการเคหะฯ ซึ่งบ้านใหม่ที่สร้างเช่ามีสภาพดีกว่าบ้านเอื้ออาทร” (ข้อความจาก เพจ workpointTODAY ) ทำให้ชาวชุมชนเมืองเกิดความงุงงงขึ้นมาเป็นอย่างมาก
ว่าโครงการดังกล่าวอยู่แห่งหนตำบลใด เนื้อหาการอภิปรายเรื่องทุจริต
หรือผลประโยชน์ทับซ้อน ที่พูดคุยกันในสภาบทความนี้ไม่ขอแสดงความเห็น
แต่จะขอกล่าวถึงทิศทางการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน หรือชนชั้นกลางระดับล่าง
ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหลัก
จากที่เครือข่ายสลัม ๔ ภาค
ทำงานแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยมากว่า ๒๐ ปี
พอจะแยกกลุ่มเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยของคนจนเมืองเป็น ๓ กลุ่มใหญ่ๆ คือ
๑. กลุ่มคนไร้บ้าน
ที่อาศัยหลับนอนตามที่สาธารณะต่างๆ
๒. กลุ่มชุมชนแออัด ที่สร้างที่อยู่อาศัยในที่ดินผู้อื่น
ไม่มีความมั่นคงด้านที่ดินพร้อมจะถูกไล่รื้อทุกเมื่อ
๓. กลุ่มชนกลางระดับล่าง ที่อาศัยเช่าห้องพัก
บ้านเช่าในชุมชน ใกล้ที่ทำงาน
ภายในเวปไซด์ได้ประชาสัมพันธ์โครงการอาคารเช่า สำหรับผู้มีรายได้น้อยในภายใต้เวปไซด์ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เอง โดยมีจังหวัดที่มีโครงการดังกล่าวคือ จังหวัดลำปาง , นครสวรรค์ , ลพบุรี , พังงา , กาญจนบุรี , มหาสารคาม , สุรินทร์ และอุบลราชธานี รวม ๘ จังหวัด จาก ๗๗ จังหวัดทั่วไทย แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ ราคา ที่นายจุติ ไกรฤกษ์ โฆษณาไว้ที่สื่อลงว่า ๑๐,๐๐๐ ห้องราคา ๙๙๙ บาท แต่ที่ลงเวปไซด์ประชาสัมพันธ์ราคาต่ำสุดอยู่ที่ ๑,๔๐๐ บาท และอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดเดียวเท่านั้น ไม่ตรงตามที่ได้พูดไว้ในสภา
ภาพจากเวปไซด์ การเคหะแห่งชาติ
ส่วนคุณสมบัตินั้นเปิดกว้างสำหรับคนที่มีรายได้ที่ชัดเจนเพราะกำหนดรายได้ไว้สูงที่เพดานไม่เกิน
๓๐,๐๐๐ บาท ตอกย้ำว่ากลุ่มคนจนเมืองกลุ่มที่ ๑ และ ๒
ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้อย่างแน่นอน
และนี่คือการอภิปรายของภาคประชาชนต่อการแก้ต่าง
แก้ตัวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ซึ่งยังไม่นับรวมถึงการละเลยต่อการส่งเสริมให้การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยโดยประชาชน
หรือชุมชน มีส่วนร่วมอย่างโครงการบ้านมั่นคง ที่งบประมาณลงไปที่ชุมชนโดยตรง
ช่างก่อสร้าง ชุมชนเป็นผู้กำหนด ที่มักจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาให้กับกลุ่มคนจนเมืองกลุ่มที่
๒ หรือ กลุ่มชุมชนแออัด กลับไม่ค่อยได้รับการส่งเสริม หรือให้ความสำคัญ
เทียบเท่ากับโครงการสร้างอาคารให้ประชาชนเช่า
ส่วนกลุ่มคนจนกลุ่มที่ ๑ กลุ่มคนไร้บ้านที่อาศัยหลับนอนในที่สาธารณะนั้น ความชัดเจนในการแก้ปัญหายังไม่มีความเด่นชัดสักเท่าไหร่นัก มีความร่วมมือในระดับกรม แต่ระดับกระทรวงยังไม่คิดที่จะดำเนินการสานต่อ นี่เป็นเพียงจุดหนึ่งที่พบเห็นทางสื่อ และประสบได้เองทางสื่อออนไลน์ถึงทิศทางการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นี้ ไม่ได้มาถูกทางเอาเสียเลย