วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2563

๒๐ ปี การเคลื่อนไหวเพื่อปฎิรูปที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย

 ๒๐ ปี การเคลื่อนไหวเพื่อปฎิรูปที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดย คมสันติ์ จันทร์อ่อน กองเลขาเครือข่ายสลัม ๔ ภาค

 

เครือข่ายสลัม ๔ ภาค มีสมาชิกชุมชนที่อยู่ในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวนมาก สภาพความเป็นอยู่ของชุมชนแออัดในที่ดินของการรถไฟฯ จะมีลักษณะไม่เป็นระเบียบ ไม่สามารถเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นที่ฐาน ไม่มีทะเบียนบ้าน ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้า รวมถึงการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการต่างๆตามนโยบายของรัฐบาล คุณภาพชีวิตย่ำแย่ ถือได้ว่าเป็นพลเมืองชั้นสองของสังคมได้เลย

 



 

สภาพที่อยู่อาศัยชุมชนในที่ดินของการรถไฟฯ

 

ในปี ๒๕๔๑ เครือข่ายสลัม ๔ ภาค เริ่มขยับขบวนใหญ่เพื่อให้รัฐบาลมาแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่ในที่ดินของ รฟท. เริ่มลงสำรวจ ทำความเข้าใจ และชักชวน เพื่อพ้องน้องพี่ ชุมชนต่างๆมาเข้าร่วมผลักดันในรูปแบบการ “เช่าที่ดิน” อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตามระเบียบของการรถไฟฯ จนสามารถรวบรวมชุมชนเบื้องต้นได้ ๖๑ ชุมชน เป็นบัญชีรายชื่อชุมชนที่ยื่นต่อกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการขอเช่าที่ดินเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย

กระทั่งในปี ๒๕๔๓ เครือข่ายสลัม ๔ ภาค ชุมนุมใหญ่หน้ากระทรวงคมนาคมเพื่อรอฟังผลมติคณะกรรมการรถไฟฯ เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นมติประวัติศาสตร์ของ รฟท. เปิดโอกาสให้ชุมชนแออัดในที่ดินของ รฟท. สามารถเช่าที่ดินเพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัยได้



 

จากชุมชนแออัดหลังจากได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับการรถไฟฯ สามารถปรับที่อยู่อาศัยเป็นชุมชนเมืองที่น่าอยู่

ภาพชุมชนบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร

 

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ผ่านไป ๒๐ ปี การเดินหน้าเช่าที่ดินเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยในที่ดินของการรถไฟฯ ยังคงขับเคลื่อนไปไม่มีหยุดแม้แต่ปีเดียว  หากแต่ว่า “ทัศนคติ” ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติ ของการรถไฟฯ กลับยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงไม่มีแนวนโยบายการแก้ปัญหาชุมชนต่างๆที่นอกเหนือ ๖๑ ชุมชน ให้ได้มีการเช่าที่ดินอย่างถูกต้อง ยังคงปล่อยให้เอกชนประมูลทับที่ดินที่เป็นที่ตั้งของชุมชน ยังคงมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่แต่คนรับผิดชอบผู้ได้รับผลกระทบกลับกลายเป็นบริษัทที่ชนะการประมูลงานมาเป็นคู่พิพาทกับชาวบ้าน ทำให้เครือข่ายสลัม ๔ ภาค จะต้องใช้ประสบการณ์ ๒๐ ปีผ่าน มาใช้ช่วยเหลือพี่น้องชุมชน

วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม ของทุกปี เป็นวันที่อยู่อาศัยโลก อีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้เครือข่ายสลัม ๔ ภาค และชาวชุมชนต่างๆจะประสานใจกันออกมาเดินรณรงค์ครั้งใหญ่กว่าหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสถานการณ์การเมืองที่รัฐบาลเองไม่ได้ใส่ใจการแก้ปัญหาของคนยากคนจน สถานการณ์รัฐราชการที่ยังปฎิบัติตัวเป็นนายประชาชน ดำเนินคดีชาวบ้านรายวัน จากสถานการณ์เหล่านี้เองจะส่งผลให้มีชาวชุมชนออกมาร่วมเดินรณรงค์ พร้อมข้อเรียกร้องที่รัฐจะต้องออกมาแก้ปัญหา

แน่นอนว่าวันจันทร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๓ หนึ่งในสถานที่ที่ขบวนรณรงค์จะไปหยุดนั้นคือ กระทรวงคมนาคม พี่น้องชาวชุมชนแออัดในที่ดินของ รฟท. จะพร้อมใจกันเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ใช้แนวทางตามมติคณะกรรมการรถไฟฯ เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๓ มาใช้กับชุมชนอื่นๆด้วย อย่างน้อยมีชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ คือ

๑.     โครงการก่อสร้างรถไฟสายสีแดง ช่วง ตลิ่งชัน - ศิริราช

๒.     โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วง หาดใหญ่ - สงขลา

๓.     โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วง นครราชสีมา - หนองคาย

๔.     โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เชื่อม ๓ สนามบิน

๕.     โครงการก่อสร้างแก้มลิง ริมบึงมักกะสัน

๖.     โครงการพัฒนาที่ดินย่านพหลโยธิน

๗.     โครงการพัฒนาที่ดินย่าน กม. ๑๑

๘.     โครงการพัฒนาที่ดินย่านมักกะสัน

และรวมถึงชาวชุมชนที่ยังเดือดร้อนจากการดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ การบุกจับกุม คุมขัง ชาวบ้าน เป็นภาพที่น่าสังเวชใจยิ่งนัก การจับกุมหน้าที่ทำงานต่อหน้าเพื่อร่วมงาน การจับกุมขณะนั่งสอบในห้องเรียนต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้น สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในห้วง ๕ - ๖ ปี ให้หลัง ประสบการณ์การแก้ปัญหาร่วมกันไม่ได้ถูกนำมาใช้ แม้ว่าชุมชนที่ได้รับการเช่าที่ดินจะอยู่ห่างจากชุมชนที่ถูกดำเนินคดีไม่กี่ร้อยเมตรก็ตาม รวมๆแล้วในทุกกรณีที่พิพาทกับการรถไฟฯ ร่วมแสนครอบครัว

จากการที่เครือข่ายสลัม ๔ ภาค ได้นำผู้เดือดร้อนจากโครงการต่างๆไปเจรจากับผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่ นายนิรุต มณีพันธ์ ถึงแนวทางการแก้ปัญหาของกลุ่มชุมชนแออัดในที่ดินของการรถไฟฯพื้นที่ต่างๆ ร้องขอให้การรถไฟฯอย่าได้นำการดำเนินคดีเป็นเครื่องมือในการกำจัดคนไร้ที่อยู่อาศัยออกจากพื้นที่ และได้เสียงตอบรับจากผู้ว่าการรถไฟฯ ถึงแนวปฎิบัติที่จะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือขุมชนสามารถอาศัยอยู่ในที่ดินของการรถไฟฯได้อย่างถูกกฎหมาย และการรถไฟฯนำที่ดินกลับมาใช้ประโยชน์ขององค์กรตัวเองได้ด้วย (Win Win)

ภาพการประชุมร่วมระหว่างเครือข่ายสลัม ๔ ภาค และ ผู้ว่าการรถไฟฯ เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓

 

หากแต่แนวทางที่กล่าวโดยผู้ว่าการรถไฟฯจะเกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริง จะต้องนำไปสู่การปฎิบัติได้ และเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกปีนี้ เครือข่ายสลัม ๔ ภาค และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพิพาทกับการรถไฟฯจะไปจัดกิจกรรมหน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อให้ผู้ว่าการรถไฟฯมาลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ถึงแนวทางที่ได้กล่าวเอาไว้กับชาวบ้านผู้เดือดร้อนข้างต้น เป็นสัญญาประชาชน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมร่วมเป็นสักขีพยานด้วย

๒๐ ปี ผ่าน กระบวนการแก้ปัญหาของภาคประชาชนยังคงไม่หยุดนิ่ง เป็นเพราะกลไกรัฐเองไม่เคลื่อนไหวต่อหากพลังมวลชนอ่อนล้า หรือนิ่งเฉยต่อปัญหาไป ในวันที่ ๕ ตุลาคม ที่จะถึงนี้ จึงถือเป็นการเปิดตัวการแก้ปัญหาอย่างเป็นทางการกับผู้ว่าการรถไฟฯ ในช่วงหลายปีที่ไม่มีผู้ว่าการรถไฟฯ เป็นการวัดใจ ความจริงใจ การรถไฟฯจะมีเพียงลมปาก หรือ พร้อมที่จะร่วมผลักดันแนวทางการแก้ปัญหากับประชาชนไปด้วยกัน

 

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภัยเงียบของกลุ่มคนจนที่ดินแปลงรวม

  ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภัยเงียบของกลุ่มคนจนที่ดินแปลงรวม คมสันติ์ จันทร์อ่อน กองเลาขาเครือข่ายสลัม 4 ภาค “ที่ดิน” ทรัพยากรอันมีจำก...