วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน คือปัญหาที่รัฐบาลมองข้าม


ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน  คือปัญหาที่รัฐบาลมองข้าม

คมสันติ์  จันทร์อ่อน กองเลขาเครือข่ายสลัม 4 ภาค

          คงปฎิเสธไม่ได้ว่าในประเทศไทยเรายังคงมีคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย  ยังมีกลุ่มคนที่อาศัยหลับนอนตามที่สาธารณะ เป็นคนไร้บ้าน เร่ร่อน  และยังมีกลุ่มชุมชนแออัดที่มีที่อยู่อาศัยที่ไม่มั่นคง ให้เราได้เห็นกันอยู่ทั่วไปอย่างเนืองๆ ซึ่งจากการสำรวจคนไร้บ้านที่อาศัยหลับนอนตามที่สาธารณะ และตามศูนย์พักต่างๆ ของสมาคมคนไร้บ้าน ร่วมกับภาคีองค์กรภาคต่างทั้งรัฐ และเอกชน ได้ตัวเลขราว 7,000 คน และจากการสำรวจชุมชนผู้มีรายได้น้อย ปี 2560 ของการเคหะแห่งชาติ ปรากฏว่า มีชุมชนผู้มีรายได้น้อย ทั่วประเทศ ทั้งหมดประมาณ 1,908 ชุมชน จำนวนบ้าน 128,975 หลังคาเรือน จำนวนครัวเรือน 158,264 ครัวเรือน และจำนวนประชากร 633,056 คน (ที่มา : สถานการณ์ที่อยู่อาศัย มกราคม - มิถุนายน 2561 กองยุทธศาสตร์และสารสนเทศที่อยู่อาศัย  ฝ่ายวิชาการพัฒนาที่อยู่อาศัย การเคหะแห่งชาติ หน้า 19)




รัฐบาลพยายามแสดงตนต่อสาธารณะว่าได้มีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเต็มที่โดยไม่ขาดตกบกพร่อง เช่น นโยบายบ้านเอื้ออาทร (ที่หลายรัฐบาลมักเปลี่ยนชื่อแต่แนวทางตามเดิม ปัจจุบันเรียก โครงการบ้านเคหะประชารัฐ) นโยบายบ้านมั่นคง นโยบายปล่อยสินเชื่อต่างๆ เพื่อที่อยู่อาศัย  แต่กลับจำนวนผู้ไร้ที่อยู่อาศัย หรือ มีที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง ไม่ได้หมดไป หรือลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลย  ทั้งๆที่หน่วยงานที่รับผิดชอบตั้งมาระยะเวลายาวนานแล้วทั้งนั้น คือ การเคหะแห่งชาติ ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2516 รวมระยะเวลาถึงปัจจุบัน 46 ปี ส่วนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2543 ปีหน้าก็จะครบรอบ 20 ปี เกือบครึ่งศรรตวรรษ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนได้เลย
จนกระทั่งล่าสุดมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ที่น่าจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงที่อยู่อาศัย โดยการสนับสนุนงบประมาณในการดาวน์บ้านจำนวน 50,000 บาท  แต่หากมาดูเกณฑ์การสนับสนุนของรัฐบาลแล้วจะเห็นว่าเป็นนโยบายที่ไม่ได้มุ่งเน้นให้ประชาชนคนยากจนจะได้สิทธิดังกล่าว เพราะกรอบการให้การสนับสนุนเปิดกว้างให้กับกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท หรือไม่เกินปีละ 1.2 ล้านบาท  ซึ่งถือเป็นรายได้ต่อเดือนที่สูงมาก  และต้องอยู่ในระบบฐานภาษีสรรพกร  ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวคนจนแทบไม่มีโอกาสเข้าถึงได้เลย  เพราะส่วนใหญ่คนจนมักจะเป็นแรงงานนอกระบบ แรงงานราคาถูก ที่ไม่ได้อยู่ในระบบฐานภาษีสรรพกร  กลุ่ม และจะสนับสนุนเพียง 100,000 รายเท่านั้น แต่รวมงบประมาณแล้วอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท

ภาพจาก www.goolgle.com และ https://www.posttoday.com/social/local/308697

ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่อาจจะแก้ปัญหาได้ด้วยเงินเพียงอย่างเดียว  นโยบายเพื่อสร้างความเป็นธรรมเพื่อให้เข้าถึงที่อยู่อาศัยมีความจำเป็นมากเช่นกัน เพราะถ้าหากมีเงินไม่มากพอการซื้อที่ดิน หรือบ้าน ในกลางเมืองใหญ่นี่เป็นไปไม่ได้เลย  หากไม่มีการนำเอาที่ดินรัฐออกมาช่วยเหลือเพื่อเป็นสถานที่สร้างที่อยู่อาศัยให้กับคนยากคนจนในเมือง ไม่ว่าจะเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ดินสาธารณะ ที่ดินราชพัสดุ หรือหน่วยงานต่างๆที่กันพื้นที่ไว้แต่ไม่เคยนำมาใช้ประโยชน์มาหลายสิบปีแล้ว   แต่ความเป็นจริงแล้วชุมชนต่างๆที่อยู่บนพื้นที่หน่วยงานต่างๆนั้นกลับตั้งมานานแล้วอย่างยาวนานไม่ต่ำกว่า 10 – 20 ปี  แต่รัฐบาลพยายามจะไม่มองในประเด็นนี้ ทั้งที่มีการเรียกร้องของภาคประชาชนมาอย่างต่อเนื่องอยู่เนืองๆ
และในช่วงนี้ รัฐบาลได้ผ่านมติ ครม. ที่จะมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน  และได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเมื่อวานนี้ ( 10 ธันวาคม 2562 ) ที่มีถึง 10 รายการ มีลักษณะไม่ต่างจากเกมส์โชว์ ใครกดได้ก่อนรับรางวัล อย่าง ชิม ช็อป ใช้ ได้จัดมาแล้ว คราวนี้มาเป็นการช่วยผ่อนเงินดาวน์บ้าน ( ที่มาจาก https://www.thairath.co.th/news/business/1717135 ) และในวันนี้ ( 11 ธันวาคม 2562 ) เป็นวันแรกในการแข่งขันลงทะเบียนเพื่อให้ได้รับสิทธิ์เงินดาวน์บ้าน 50,000 บาท
เครือข่ายสลัม 4 ภาค มองเห็นว่านโยบายต่างๆในช่วงปลายปีส่วนใหญ่มักมาจากฐานที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ  แต่ไม่ได้มาจากฐานการอุดหนุนช่วยเหลือรากหญ้ามากนัก เป็นเพียงการยืมมือคนจนในการผ่านเงินไปยังกลุ่มทุนใหญ่ที่อยู่ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา  ไม่มีการจับจ่ายใช้สอยเท่าที่เป้าตั้งไว้ได้  ซึ่งเป็นวังวนเช่นนี้มานานนับจะเกือบสิบปีแล้ว

ขอขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ข่าวไทยรัฐ

           เราคงไม่ตื่นเต้น ดีใจ กับนโยบายเพื่อยืมมือคนจนผ่านเงินไปยังกลุ่มบริษัทค้าอสังหาริมทรัพย์ เพราะถึงแม้นเรากดใช้สิทธิ์ทัน พี่น้องคนยากจนก็คงไม่มีเครดิตที่จะได้รับอนุมัติสินเชื่อการผ่อนที่อยู่อาศัย พี่น้องคนยากคนจนก็คงไม่มีปัญญาผ่อนที่อยู่อาศัย ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงแบบนี้
           เครือข่ายสลัม 4 ภาคจึงไม่เห็นด้วยกับการออกนโยบายเหล่านี้ออกมาโดยเฉพาะนโยบายช่วยเงินดาวน์ซื้อบ้านรายละ 50,000 บาท ในขณะที่ยังมีคนนอนข้างถนน นอนตามศูนย์พัก มีบ้านพักในสลัม  สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยให้เกิดช่องห่างมากขึ้นไปเรื่อยๆ.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภัยเงียบของกลุ่มคนจนที่ดินแปลงรวม

  ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภัยเงียบของกลุ่มคนจนที่ดินแปลงรวม คมสันติ์ จันทร์อ่อน กองเลาขาเครือข่ายสลัม 4 ภาค “ที่ดิน” ทรัพยากรอันมีจำก...