วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สิทธิที่อยู่อาศัย คือสิทธิมนุษยชน

สิทธิที่อยู่อาศัย  คือสิทธิมนุษยชน

คมสันติ์  จันทร์อ่อน กองเลขาเครือข่ายสลัม 4 ภาค

“นกต้องมีรัง คนต้องมีบ้าน”  นี่คือสัจจธรรมของมนุษย์   ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษยชาติ  ทุกคนต้องมีที่อยู่อาศัยไว้พักพิง หลบแดด หลบฝน  ขณะที่สถานการณ์การแย่งชิงทรัพยากรที่ดินทั่วทุกมุมโลกกับรุนแรงเพิ่มมากขึ้น  ส่งผลให้มีคนจำนวนมากไม่มีที่ดินที่เอาไว้สร้างที่อยู่อาศัย  หรือมีที่อยู่อาศัยที่ไม่มีความมั่นคง  เป็นชุมชนแออัด (Slum)  หรือต้องหลับนอนตามข้างทาง ตามที่สาธารณะ เป็นคนไร้บ้าน (Homeless) ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย
องค์การสหประชาชาติได้ประกาศเอาไว้เมื่อปี ค.ศ. 1989 ( พ.ศ. 2532 ) ให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี  เป็นวันที่อยู่อาศัยโลก  ในปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560 องค์การสหประชาติประกาศเพื่อให้ประชาคมโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของที่อยู่อาศัย  ซึ่งเป็นปัญหาวิกฤตทั่วทุกสังคมโลก  ไม่ว่าจะเป็นสังคมเมือง หรือสังคมชนบท


หากมองสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในประเทศไทย  หลังจากที่มีการเข้ายึดอำนาจและบริหารประเทศโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะเข้ามาปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ  ลดช่องว่างความห่างระหว่างคนจน กับ คนรวย  แต่นโยบายที่ออกมา  กับการปฏิบัติของหน่วยงานรัฐ กลับสวนทางกัน โดยกลุ่มคนจนชนบทได้รับผลกระทบจากคำสั่ง คสช. 64/2557 และนโยบายทวงคืนผืนป่า  ที่จะผลักดันผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตป่าออกมา    รวมทั้งการขีดแนวเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดต่างๆ เกิดขบวนการปั่นราคาที่ดิน  กว้านซื้อที่ดิน  เวนคืนที่ดิน  เพื่อให้มีการลงทุนระยะยาวจาทุนใหญ่ในประเทศและทุนข้ามชาติ   นโยบายเหล่านี้ล้วนแล้วส่งผลให้เกิดหมู่บ้านชนบทล่มสลาย  กลุ่มชาติพันธ์ต่างๆแตกสลาย  ต้องอพยพเข้ามาหาที่อยู่อาศัยในตัวเมืองในหลายจังหวัด  หากจะดูในจังหวัดเชียงใหม่จะพบกลุ่มชนเผ่าต่างๆมาพักอาศัยในชุมชนแออัดในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น
ในส่วนของชุมชนเมือง นโยบายที่อ้างถึงการพัฒนาประเทศ , การจัดระเบียบต่างๆ ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของคนจนเมืองเป็นอย่างมาก 
1.     โครงการพัฒนาคมนาคมระบบราง ซึ่งมีหลายโครงการ  แต่ที่กำลังจะดำเนินการและยังไม่ได้ข้อยุติข้อพิพาทด้านผลกระทบต่อที่อยู่อาศัย คือ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทาง สุราษฎร์ธานี – หาดใหญ่ – สงขลา , โครงการก่อสร้างรถไฟชานเมือง สายสีแดง เส้นทาง ศิริราช – ตลิ่งชัน , โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กทม. – หนองคาย ซึ่งจะมีประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว ราว 7,000 ครัวเรือน
 



2.      โครงการจัดระเบียบชุมชนริมคลอง , ริมแม่น้ำ  รัฐบาลได้ออกนโยบายจัดระเบียบชุมชนริมคลองลาดพร้าว และริมคลองเปรมประชากร จำนวนกว่า 11,000 หลังคาเรือน และนโยบายการจัดระเบียบชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ราว 250 หลังคาเรือน  รวมทั้งออกกฎหมายห้ามไม่ให้มีบ้านเรือนปลูกสร้างริมน้ำอีกต่อไปในอนาคต  ซึ่งกฎหมายดังกล่าวส่งผลต่อชุมชนริมน้ำทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนเมือง หรือ หมู่บ้านชาวเล ที่จะต้องรื้อย้ายที่อยู่อาศัยออกจากริมน้ำทั้งหมด


3.      โครงการพัฒนาย่านเศรษฐกิจใหม่ โดยมีโครงการเขตเศรษฐกิจย่านสถานีแม่น้ำ โดยใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เนื้อที่กว่า 270 ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า 90,000 ล้านบาท และโครงการคลองเตยคอมเพล็กซ์ โดยใช้ที่ดินของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เนื้อที่กว่า 2,300 ไร่  มูลค่าการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท โดยการลงทุนทั้งสองโครงการมีแนวโน้มจะเป็นการลงทุนของทุนข้ามชาติเป็นหลัก  ซี่งส่งผลโดยตรงกับชุมชนแออัดที่อยู่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก  ไม่ว่าจะเป็นชุมชนย่านคลองเตย , ชุมชนย่านเขตพระราม 3 ล้วนได้รับผลกระทบทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำมาหากิน
4.      การกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์  หลังจากที่มีแนวนโยบายการพัฒนาด้านต่างๆ พาดผ่านตามแนวเส้นทางต่างๆ  ส่งผลให้พื้นที่ใกล้เคียงมีการเก็งกำไรด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น  จากชุมชนแออัดที่เคยอยู่กันมานานจากที่ดินไม่มีราคาเจ้าของที่ดินไม่สนใจปล่อยให้อยู่อาศัย    เจ้าของที่ดินเริ่มประกาศขายที่ดิน  หรือไม่ก็จะยกเลิกการให้อยู่อาศัยของชาวชุมชน เพื่อจะนำที่ดินมาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้เองส่งผลให้เกิดการกระจุกตัวของที่ดิน  มีการแย่งชิงที่ดินรุนแรงขึ้น  ยังไม่นับรวมถึงการใช้ที่ดินของรัฐเพื่อส่งเสริมการลงทุนของเอกชนรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน สปก. หรือที่ดินสาธารณะ  ในขณะที่คนจนพยายามขอใช้ที่ดินเหล่านั้นเพื่อเป็นที่ทำกินและที่อยู่อาศัย  กับต้องมาเจอเงื่อไขต่างๆจนไม่สามารถนำมาใช้ได้  ซึ่งจะต่างจากเอกชนรายใหญ่ในการขอใช้ที่ดินที่ใช้ระยะเวลาสั้นกว่า  และสามารถได้กรรมสิทธิที่ดินได้จริง
ดังนั้นเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ที่เครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้จัดการเดินรณรงค์เพื่อให้สาธารณะได้เข้าใจถึงความสำคัญต่อที่อยู่อาศัย  พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลทุกปี   แต่เนื่องจากในปีนี้เดือนตุลาคม มีพระราชพิธีสำคัญยิ่งที่ประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เครือข่ายสลัม 4 ภาค จึงเลื่อนกิจกรรมเดินรณรงค์ไปเป็นวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560  โดยข้อเสนอต่อรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาที่ดิน ที่อยู่อาศัย มีดังนี้
1.      รัฐบาลต้องสนับสนุนที่ดินของรัฐนำมาแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนเมือง เช่น ที่ดินสาธารณะ ที่ดินของการรถไฟฯ ที่ดินของการท่าเรือ มาแบ่งปันให้ชุมชนได้เช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยที่มั่นคงระยะยาว
2.      รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณ และกระบวนการ ในการแก้ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยตามนโยบายโครงการบ้านมั่นคง  ที่ชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการพัฒนาชุมชน อย่างต่อเนื่อง
3.      ตั้งกลไกการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยตามหน่วยงานที่กำกับดูแลระดับนโยบาย เช่น กระทรวงคมนาคม หรือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  โดยมีรัฐมนตรีประจำกระทรวงเป็นประธานในการแก้ไขปัญหาร่วมกับชาวชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
4.      แก้ไข , ยกเลิก , งดเว้น กฎหมายต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัย และวิถีความเป็นอยู่ของคนจนเมือง เช่น กฎหมายไล่รื้อจาก คณะปฎิวัติที่ 44 ปี 2502 ที่ตัดสิทธิ์การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของประชาชน และคำสั่งจาก คสช. ฉบับต่างๆด้วย
5.      ผ่อนปรน , งดเว้น กฎหมายต่างๆที่ส่งผลต่อการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ของคนจนเมืองในพื้นที่ขนาดเล็ก ตามนโยบายโครงการบ้านมั่นคงที่คนจนมีศักยภาพในการมีที่ดินขนาดเล็ก แต่ทำให้ผิดกฎหมายผังเมือง และกฎหมายควบคุมการปลูกสร้างอาคาร
6.      การสร้างความมั่นคงในระยะยาวรัฐบาลต้องสร้างสวัสดิการพื้นฐานทางชีวิตของประชาชนให้มั่นคงควบคู่ไปด้วยคือ 
6.1 รัฐบาลต้องสนับสนุนหลักประกันสุขภาพอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง ถ้วนหน้า
6.2 รัฐบาลต้องผลักดันให้เกิดบำนาญแห่งชาติ เพื่อดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย
6.3 รัฐบาลต้องสนับสนุนให้เกิดกองทุนการรักษาพยาบาลสำหรับคนไทยที่ไม่มีบัตร  อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์
เครือข่ายสลัม 4 ภาค ยังคงเชื่อมั่นในพลังการรวมกลุ่มเพื่อการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย  และจะติดตามการแก้ปัญหาที่ดิน ที่อยู่อาศัยของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด  ทั้งนี้หากรัฐบาลมีความจริงใจในการลดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น  รัฐบาลจะต้องมีนโยบาย และปฎิบัติการที่ทำได้จริงมาให้ประจักษ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภัยเงียบของกลุ่มคนจนที่ดินแปลงรวม

  ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภัยเงียบของกลุ่มคนจนที่ดินแปลงรวม คมสันติ์ จันทร์อ่อน กองเลาขาเครือข่ายสลัม 4 ภาค “ที่ดิน” ทรัพยากรอันมีจำก...